วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สินค้าส่งออก

อุตสาหกรรมกุ้งไทยยิ้มรับออเดอร์พุ่ง

คาดปีนี้ส่งออกเพิ่ม10%-วอนรัฐดูแลบาททำราคาตก



        นายกสมาคมกุ้งไทยคาดปีนี้ส่งออกกุ้งเพิ่มอีก 10% รับอานิสงส์กุ้งอินโดนีเซีย-บราซิลประสบปัญหาไวรัส ขณะที่จีนเจอภัยอากาศหนาวจัด ดันยอดคำสั่งซื้อกุ้งไทยพุ่ง โล่งพาณิชย์ออกประกาศตรวจสอบแหล่งผลิตกุ้งนำเข้าป้องไวรัสระบาด แต่โอดราคาตกสวนข่าวดีเหตุจากปัญหาบาทแข็งค่า วอนรัฐช่วยดูแล นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่า จากการที่ผู้เลี้ยงกุ้งในประเทศอินโดนีเซียและบราซิลประสบปัญหาโรคไวรัส กล้ามเนื้อขุ่น (ไอเอ็มเอ็น) และประเทศจีนก็กำลังประสบกับภาวะอากาศหนาวจัด ทำให้ผลผลิตกุ้งไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อกุ้งจากประเทศไทยสูงขึ้นเป็นเกือบ 1,000 ตันต่อเดือน จึงเป็นโอกาสดีสำหรับการส่งออกกุ้งของไทยที่จะสามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้นอีก 10% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่า การส่งออกกุ้งไทยในปีนี้จะได้ใกล้เคียงกับปีก่อนคือที่ 3.9 แสนตัน ขณะเดียวกัน ความต้องการบริโภคภายในประเทศน่าจะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศงดน้ำเข้ากุ้งจากประเทศอินโดนีเซียและบราซิล
        “เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศให้ผู้ประกอบการที่จะนำเข้ากุ้งและสินค้ากุ้งจาก ต่างประเทศต้องตรวจสอบแหล่งผลิตของสินค้าก่อนนำเข้า และต้องแนบใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำที่ระบุว่าปราศจากโรคไอเอ็มเอ็น จึงค่อนข้างสบายใจว่าประเทศไทยจะสามารถป้องกันโรคดังกล่าวจากอินโดนีเซียได้ เพราะหากกุ้งไทยติดเชื้อไวรัสที่ว่านี้ด้วย ก็จะได้รับผลกระทบหนัก และส่งผลกระทบต่อการส่งออกได้” นายสมศักดิ์กล่าว
ส่วนทิศทางราคากุ้งในขณะนี้ แม้จะมีโอกาสส่งออกได้มากขึ้น แต่พบว่าราคากลับลดลงกว่า 10% จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคากุ้งขนาด 50 ตัวต่อกิโลกรัม อยู่ที่กิโลกรัมละ 134 บาท จากเดิมราคากิโลกรัมละ 150-155 บาท และกุ้งขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม อยู่ที่กิโลกรัมละ 105 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 125 บาท จึงอยากให้รัฐบาลดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าขึ้นไปมากกว่าเดิม ส่วนราคาขายปลีกกุ้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ วันที่ 2 เมษายน กุ้งขาวขนาด 70-80 ตัวต่อกิโลกรัม อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 130-150 บาท ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกกุ้งของไทยเมื่อปี 2552 อยู่ที่จำนวน 390,395 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 8.77% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าส่งออก 93,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.94% โดยสามารถแยกเป็นการส่งออกกุ้งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย ส่งออกได้จำนวน 187,635 ตัน เพิ่มขึ้น 3.68% รองลงมาคือประเทศญี่ปุ่น ส่งออกได้จำนวน 70,701 ตัน เพิ่มขึ้น 11.93%

ที่มา : คมชัดลึก
http://ethaitrade.com/2010/export-watch/

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เกาหลี

ประเทศเกาหลี

                                                       
ประวัติศาสตร์

            เริ่มจาก อาณาจักรโคโซซอนสถาปนาขึ้นโดย "ทันกุน" ต่อมาสมัยสามอาณาจักรแห่งเกาหลี (โคกรูยอ, แพ็กเจ และชิลลา) ถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นสหอาณาจักรชิลลา ซึ่งมีพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง และต่อมา ค.ศ. 918 ได้สถาปนาอาณาจักรโคเรียวหรือ โค-รยอ ซึ่งเป็นชื่อของเกาหลี (Korea) และเมื่อราชวงศ์โซซอน(ราชวงศ์ลี) ครองอำนาจเปลี่ยนชื่ออาณาจักรใหม่ ชื่อ อาณาจักรโซซอนเมืองหลวงชื่อว่า ฮันยาง (กรุงโซล) มีลัทธิขงจื้อ เป็นคติธรรมประจำชาติ และได้ประดิษฐ์อักษรเกาหลีขึ้น
ในปี พ.ศ.2453ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ้นจนกระทั่งสิ้นสุด สงครามโลกครั้งที่2ก็ได้รับอิสรภาพอย่างถาวร
            ประเทศเกาหลีแบ่งเป็น 2 ประเทศ คือเกาหลีใต้และเกาหลี โดย ประเทศเกาหลีใต้สถาปนาเป็น สาธารณรัฐเกาหลีส่วนประเทศเกาหลีเหนือสถาปนาเป็น สาธาณรรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
                                                             







ที่มา th.wikipedia.org

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

การปิดการขาย








เทคนิคการปิดการขาย
         
   การปิดการขาย คือ หัวใจสำคัญของงานขายคือผลงานที่จะเกิดขึ้นสถิติการปิดการขายของนักขายระดับโลกบอกไว้ว่า ร้อยละ 80 ของลูกค้าที่ซื้อสินค้าเกิดจากการปิดการขายครั้งแรกของนักขายที่เหลืออีกร้อยละ 20 เกิดจากการปิดการขายครั้งที่ 2-5 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการปิดการขายครั้งแรกถึง 4 เท่า ทั้งใช้เวลาน้อยกว่าอีกหลายเท่า สูตรการปิดการขายคือ พบ = เปิด = ปิด
 พบ คือ การเข้าพบลูกค้าโดยนัดหมายไปพบทุกราย
 เปิด คือ การเปิดใจและการเปิดการขาย
 ปิด คือ การปิดการขายครั้งแรกทันที

สูตรการขายทำเป็นขั้นตอนจะทำให้การขายง่ายขึ้น แบ่งเป็น 5 ขั้นตอนคือ
 1.เข้าพบ
 2.เปิดใจ
 3.เสนอขาย
 4.ปิดการขาย
 5.แก้ปัญหาและปิดการขายซ้ำ
 
  เข้าพบ เริ่มตั้งแต่เตรียมรายชื่อลูกค้า เตรียมการนัดหมายและไปตามนัดให้ตรงเวลา คือไปก่อนเวลานัด 10-15 นาที
  เปิดใจ คือการโยนคำถามให้ลูกค้าตอบมาแล้วเขามีความสุข เช่นถามถึงความสำเร็จในหน้าที่การงานจากอดีตถึงปัจจุบันของลูกค้า คติพจน์ในการทำงาน งานอดิเรกที่ลูกค้าชอบ เป็นต้น
  เสนอขาย โยนคำถาม ถามว่าลูกค้าต้องการอะไรในชีวิต ภาระที่เขามีและวิธีปลดเปลื้องภาระนั้น เข้าสู่ประเด็นของแผนการตลาดของบริษัท คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอให้สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกค้าจำเป็นต้องใช้ จำเป็นต้องทำ
  ปิดการขาย แบ่งเป็น 5 ขั้นตอน คือ ขอบัตรประชาชน, กรอกใบสมัคร, ให้ลูกค้าเซ็นต์ ให้สินค้าเขา และเก็บเงิน
 - ขอบัตร ถามว่าไม่ทราบว่าคุณนำบัตรประชาชนมาหรือเปล่าครับ
 - กรอก กรอกข้อมูลทันทีที่ลูกค้าให้บัตร
 - เซ็นต์ ส่งปากกาให้ลูกค้าเซ็นต์ชื่อในใบสมัคร ถ้าเขาไม่เซ็นต์บอกว่าเซ็นต์ไปเถอะไม่เป็นไรไม่จ่ายเงินไม่มีผล
 - ให้สินค้า ถามว่าถ้าเลือกได้อยากได้สินค้าใดลองสัมผัสลองดมกลิ่นหรือลองใช้
 - เก็บเงิน ถามว่าใช้ ATM ธนาคารใด ใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต
   
    ขบวนการปิดการขายจะเป็นระบบที่เป็นธรรมชาติ และเด็ดขาดฉับพลัน ไม่เชื่อก็ลองดูเมื่อลูกค้ามีปัญหาให้ใจเย็นในการตอบปัญหาถามว่ามีปัญหาอื่นอีกไหม ถามไปเรื่อย ๆ และสามารถเลือกตอบเพียงปัญหาเดียวส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาสุดท้ายจากนั้นทำการปิดการขายซ้ำอีกอาจจะหลาย ๆ ครั้ง (Multiple Close) แต่ต้องปิดการขายให้ได้ในครั้งแรกบังคับใจตนเองให้เป็นนักขายในระดับแนวหน้า คือปิดการขายทันที